คุณสุจิตรา หมวดพล วัย 42 ปี ประธานบริหารบริษัท S-WISS LIFT UP เจ้าของผลิตภัณฑ์บำรุงความงามจากสวิสฯ สร้างธุรกิจจากสิ่งที่ชอบและสิ่งที่ใช่
“เนื่องจากชอบการบำรุงดูแลผิวอยู่แล้วเพราะเป็นคนที่มีปัญหาเรื่องผิว แล้วเราก็กลัวหมอ กลัวเข็มฉีดยา เพราะฉะนั้นจะไม่กล้ายุ่งกับการทำศัลยกรรม แต่จะเน้นที่การบำรุงรักษาแทน เคยลองใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมาหลายยี่ห้อ แต่ก็มีปัญหาแพ้ง่าย จนได้มาใช้ SWISS LIFT UP (สวิส ลิฟท์ อัพ) ซึ่งเป็นชื่อเดิม ปรากฏว่าเราไม่แพ้ ใช้แล้วรู้สึกว่าได้ผลจริงๆเลยใช้มาตลอด 5 ปี จนวันหนึ่งเจ้าของเขาจะเลิกกิจการเพราะจะย้ายไปอยู่ต่างประเทศ ด้วยความที่กลัวว่าจะไม่มีของให้ใช้ แล้วก็คิดว่าถ้าต่อไปไม่มีใครขาย เราก็ไม่รู้จะไปหาซื้อที่ไหน เราเลยตัดสินใจขอซื้อลิขสิทธิ์ต่อจากเจ้าของเก่าเพื่อมาทำต่อ และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น S-WISS LIFT UP (เอส-วิส ลิฟท์ อัพ)
“เรียกว่าเป็นการเริ่มต้นธุรกิจที่วู่วามมากในตอนแรก ตัดสินใจเร็วมาก แต่เพราะเป็นสิ่งที่เราชอบและใช่ความต้องการของเราจริงๆ ก็คิดว่าน่าจะมีคนอื่นที่ใช้แล้วชอบเหมือนเรา โชคดีที่ตัวเองเคยมีประสบการณ์ทำงานเป็น Senior Manager ให้กับสินค้าอุปโภคบริโภคของแบรนด์ใหญ่แบรนด์หนึ่งในเมืองไทยมาก่อน ทำให้เราพอมองเห็นภาพรวมของธุรกิจและการที่เคยบริหารดูแลคนมาก่อนทำให้สามารถนำประสบการณ์มาปรับใช้กับธุรกิจของเราได้
“การเริ่มธุรกิจของเราสวนทางกับคนอื่นซึ่งถือว่าเสี่ยงเหมือนกัน คือหลังจากที่เรานำเข้าสินค้าล็อตแรกมาในสต๊อกก่อน แล้วถึงค่อยมีการวางแผนธุรกิจและมีหน้าร้าน สินค้าที่เรานำเข้ามาใหม่ทั้งหมดมีเยอะเหมือนกัน ก็ต้องหาทางกระจายสินค้า โชคดีที่มีลูกค้าเก่าที่ชอบคุณภาพผลิตภัณฑ์อยู่แล้ว พอรู้ว่าเราซื้อกิจการต่อมาเขาก็ตามมาเป็นลูกค้าต่อ บวกกับลูกค้าใหม่ที่พอได้ลองสัมผัสสินค้าคุณภาพระดับ Hi-End ก็ชื่นชอบและบอกต่อๆกันไป ทำให้ของในสต๊อกที่มีขายหมดในเวลาไม่นาน
“เนื่องจากผลิตภัณฑ์ S-WISS LIFT UP มีลิขสิทธิ์มาจากสวิสเซอร์แลนด์ เราก็ต้องนำมาปรับสูตรให้เข้ากับคนไทย อากาศบ้านเรากับยุโรปต่างกัน ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ของเขามักเป็นออยล์เบส แต่บ้านเราเป็นเมืองร้อนก็ต้องปรับเป็นวอเตอร์เบสแทน ก่อนจะบรรจุแพ็กเกจ ซึ่งขั้นตอนทุกอย่างอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
“ก่อนจะทำธุรกิจตรงนี้ ดิฉันก็ไปเรียนรู้ไปศึกษาเรื่องนี้กับหมอผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณอยู่ 6 เดือน เพราะการจะทำอะไร เราควรต้องเข้าใจ ต้องรู้จริง ๆ ในเรื่องนั้น ๆ ก่อน”
“หลังจากที่เราทำตัวผลิตภัณฑ์มาได้ระยะหนึ่ง ก็เริ่มมีลูกค้าถามถึงการทำทรีตเมนต์ผิว เราก็เลยตัดสินใจเปิดสปาขึ้นใกล้ ๆ ร้าน เพื่อให้บริการทำทรีตเมนต์ผิวให้ลูกค้าเพราะการทำทรีตเมนต์จะทำให้เห็นผลเร็วขึ้น เป็นการช่วยส่งเสริมกัน นอกเหนือจากการใช้ผลิตภัณฑ์”
“เราไม่เน้นการทำโฆษณาหรือการใช้ดาราคนดังมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ แต่เน้นทำการตลาดกับกลุ่มลูกค้าของเราโดยตรง คือกลุ่ม Hi-End ให้ลูกค้าได้ทอลองใช้ผลิตภัณฑ์ เมื่อเขาพอใจและติดใจในคุณภาพของสินค้า เขาก็จะมาเป็นลูกค้าของเราเอง ลูกค้าอีกกลุ่มของเราคือดารานักแสดง เพราะหน้าตาและผิวพรรณเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นกับอาชีพของเขา เมื่อมีคนที่ใช้แล้วดี เขาก็จะแนะนำต่อกันไป ทำให้เรามีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกทาง"
“สิ่งสำคัญในการทำธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ความงามคือเรื่องของคุณภาพ ผลิตภัณฑ์ทุกตัวดิฉันเป็นคนใช้เองด้วย ไม่ได้ผลิตมาเพื่อขายอย่างเดียว ต้องมั่นใจในความปลอดภัย ผลิตภัณฑ์ของเราทุกตัวผ่านการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกขั้นตอน"
“นอกจากคุณภาพสินค้า สิ่งที่ต้องเน้นอีกอย่างคือเรื่องของการบริการ พนักงานทุกคนต้องมีเซอร์วิสมายด์ เพราะเราทำธุรกิจเกี่ยวกับความงามและการบริการ เราต้องดูแลลูกค้า นอกจากนี้ เรามีผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวพรรณคอยให้คำแนะนำลูกค้าที่โทรเข้ามา และมีการไปให้บริการลูกค้าถึงที่ โดยที่ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาด้วยตัวเอง